วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทำไมต้องอดอาหาร

       มีคริสตังบางคนกล่าวว่าเราไม่จำเป็นต้องอดอาหารในช่วงเทศกาลมหาพรต แต่ควรจะทำกิจศรัทธาเสริมจากที่ทำอยู่ตามปกติเช่นการใช้เวลาอ่านและรำพึงพระคัมภีร์นานขึ้นกว่าเดิมเป็นต้น  ผู้ที่มีความคิดเห็นเช่นนี้คงไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของเทศกาลมหาพรตคือ 1) การสวดภาวนา  2) การอดอาหาร และ 3) การให้ทาน  ดังนั้นจึงมิใช่เป็นการทำกิจศรัทธาอย่างหนึ่งและเพิกเฉยกิจศรัทธาอื่น
การอดอาหารเป็นกิจศรัทธาที่โดดเด่นที่สุดของเทศกาลมหาพรต   แม้ว่าการสวดภาวนาและการให้ทานก็เป็นสิ่งที่ดีและควรกระทำอย่างสม่ำเสมอ แต่การอดอาหารเป็นกิจศรัทธาที่ปฏิบัติกันเฉพาะในช่วงเทศกาลมหาพรตเท่านั้น จึงเป็นเรื่องน่าเสียดายทีเดียวหากเราไม่ฉวยโอกาสอดอาหารในเทศกาลนี้!
วัตถุประสงค์ของการอดอาหาร นักบุญโธมัส อไควนัส สรุปวัตถุประสงค์ของการอดอาหารคือ
1.          เพื่อปราบตัณหาฝ่ายเนื้อหนัง เพราะการอดอาหารเป็นการพิทักษ์ความบริสุทธิ์ 
2.          เพื่อยกจิตใจถึงสิ่งที่อยู่เบื้องบนได้ดียิ่งขึ้น  
3.          เพื่อแสดงถึงการกลับใจที่แท้จริงด้วยจิตใจที่เป็นทุกข์ถึงบาป   
การอดอาหารเป็นรากฐานของกิจศรัทธาอื่น หากเราอดอาหารแต่ไม่สวดภาวนาและไม่ให้ทาน  วิญญาณของเราย่อมไม่ได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการอดอาหารนั้น   ผู้ที่กล่าวว่าเราสามารถสวดภาวนาได้โดยไม่ต้องอดอาหารเป็นผู้ที่กำลังแยกวิญญาณของตนออกจากร่างกายซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตฝ่ายจิต เนื่องจากร่างกายมีส่วนเกี่ยวพันกับการสวดภาวนาเสมอและแสดงออกด้วยการคุกเข่า การยืน หรือการยกมือ เป็นต้น ร่างกายของเราจึงควรต้อง สวดภาวนา ไปพร้อมกับวิญญาณด้วยการ อดอาหาร   เป็นการนำร่างกายและวิญญาณร่วมกันต่อสู้ในสงครามแห่งจิตวิญญาณ
ในเรื่องการให้ทานนั้นผู้มีเงินควรแสดงให้คนยากจนที่อดอาหารมาตลอดทั้งปีเห็นว่าพวกตนก็มีช่วงเวลาที่อดอาหารด้วยความสมัครใจเช่นกัน  และในการอดอาหารนี้ย่อมเป็นที่มาของเงินออมที่สามารถนำไปมอบให้แก่ลาซารัสได้ ดังนั้นในช่วงเวลานี้  คนยากจนควรจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นตามสัดส่วนของการอดออมและการเสียสละของผู้มีเงินที่มอบให้ด้วยความรักฉันพี่น้องเพื่อให้ทุกคนจะได้มีส่วนร่วมในงานเลี้ยง  ปัสกาที่พระเยซูเจ้าจะทรงเชื้อเชิญเราเมื่อสิ้นสุดเทศกาลมหาพรต 40 วัน
เราอดอาหารเพื่อเลียนแบบพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงอดอาหารและทรง     หิวโหยเพราะความรักที่มีต่อเรามนุษย์  เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะไม่อดอาหารเพื่อแสดงความรักต่อพระองค์บ้างหรือ?   
ทันทีหลังจากที่พระเยซูเจ้าทรงรับศีลล้าง พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังทะเลทราย    พระองค์ประทับอยู่ในสถานที่ไม่มีอาหารและน้ำดื่ม ทรงหลับนอนอยู่ตามก้อนหิน  และทรงใช้ชีวิตเช่นนี้เป็นเวลา 40 วัน ก่อนที่จะทรงอนุญาตให้เทวดาเข้าเยี่ยมและนำอาหารมาถวายได้   เช่นนี้แหละที่พระเยซูเจ้าทรงปูทางไว้ให้เราสำหรับเทศกาลมหาพรต  พระองค์ทรงผ่านความเหน็ดเหนื่อยและความทุกข์ยากมาก่อนเรา เพื่อให้เราจะได้เจริญรอยตามอย่างเงียบๆ ด้วยการละทิ้งกิเลสและพยศชั่วทั้งหลาย  ขอเราอย่าได้มีใจที่แข็งกระด้างต่อการเชื้อเชิญของพระองค์ มิฉะนั้นเราจะประสบความหายนะดังที่พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า หากท่านไม่ทำกิจใช้โทษบาป ท่านจะพินาศ
เรียบเรียงจาก http://newtheologicalmovement.blogspot.com/2011/03/why-we-must-fast.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น