วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การกลับคืนพระชนมชีพ

เมื่อพระเยซูเจ้าสิ้นพระชนม์ ม่านในพระวิหารฉีกขาดเป็นสองส่วนตั้งแต่ด้านบนลงมาถึงด้านล่าง (มก 15:38)  หมายถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์เป็นการเผยแสดงถึงองค์พระเจ้า  ตั้งแต่นี้ต่อไป พระเจ้าไม่ทรงซ่อนพระองค์อีกต่อไป  ความงามและความลึกลับได้ถูกเปิดเผยเพราะกางเขน  ถ้าเราต้องการมองเห็นพระเจ้า  ให้มองไปที่กางเขน  ที่นั่นเราจะเห็นความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มีความรักใดใหญ่ยิ่งเกินกว่าการยอมพลีชีพเพื่อคนที่เรารัก  พระวรสารบรรลุจุดประสงค์ได้ก็เนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูเจ้า
นักบุญมาระโกไม่แยกการบรรยายพระมหาทรมานออกจากการกลับคืนพระชนมชีพ  ท่านกล่าวว่า การสูญเสียชีวิตคือการรักษาชีวิต  เป็นความจริงที่ว่า การตายต่อตนเองทำให้เป็นอิสระ  เราต้องทิ้งความเห็นแก่ตัว  เพราะเป็นทางเดียวที่จะทำให้เป็นอิสระ  อิสรภาพไม่ได้เกิดขึ้นภายหลังเหมือนเป็นรางวัล  แต่อิสรภาพคือการตายต่อตัวเอง
เรื่องการกลับคืนพระชนมชีพที่มาระโกเล่า  เริ่มด้วย เมื่อวันสับบาโตล่วงไปแล้ว  มารีย์ชาวมักดาลา  มารีย์มารดาของยากอบ และนางซาโลเม ซื้อเครื่องหอมเพื่อชโลมพระศพของพระเยซูเจ้า (มก 16:1)  วันสับบาโตเริ่มตั้งแต่วันศุกร์ 6 โมงเย็นไปจนถึงวันเสาร์ 6 โมงเย็น ตลาดจึงปิดตั้งแต่วันศุกร์ 6 โมงเย็น และเมื่อเริ่มเปิดในวันเสาร์เย็น  สตรีใจศรัทธาจึงรีบไปซื้อเครื่องหอมทันทีเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับชโลมพระศพในเช้าวันอาทิตย์ เพราะร่างของพระเยซูเจ้าเปื้อนเลือดมาสองวันแล้ว
มาระโกต้องการให้เราตระหนักด้วยว่า นี่คือการจบเรื่องอิสราเอลเก่า และพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์) จะเป็นการเริ่มต้นพระศาสนจักร เรื่องของสตรีใจศรัทธาจึงเป็นสะพานเชื่อมโยงพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่  สตรีเหล่านี้จะเป็นผู้ส่งข่าวการกลับคืนพระชนมชีพ  วันสับบาโตต้องหลีกทางให้แก่วันอาทิตย์ของคริสตชนซึ่งตั้งแต่นี้ต่อไปจะเป็นวันของพระเจ้า
เมื่อไปถึงก็ประหลาดใจที่พบว่า ก้อนหินใหญ่ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตรกลิ้งออกไปแล้ว  และยิ่งประหลาดใจมากขึ้นเมื่อเข้าไปในอุโมงค์ แทนที่จะพบพระศพที่ห่อผ้าวางไว้เมื่อสองวันก่อน  กลับพบชายหนุ่ม 2 คนสวมชุดขาวนั่งอยู่ทางขวา และในอุโมงค์นั้นแทนที่จะมืดกลับสว่างจ้า  ชายหนุ่มในชุดขาวกล่าวว่า อย่ากลัวไปเลย  ท่านกำลังมองหาพระเยซูชาวนาซาเร็ธผู้ถูกตรึงกางเขน  พระองค์ทรงกลับคืนพระชนมชีพแล้ว  พระองค์มิได้ประทับอยูที่นี่...  จงไปแจ้งบรรดาศิษย์และเปโตร (มก 16:6-7)  พวกเธอเป็นสาวกของอัครสาวก  ผู้นิพนธ์พระวรสารทั้งสี่เขียนว่า  สาวกกลุ่มแรกของการกลับคืนพระชนมชีพคือพวกผู้หญิง  ซึ่งเป็นความประหลาดใจทีเดียวของพระศาสนจักร  ทั้งที่เปโตรน่าจะเป็นคนแรกที่ทราบข่าว  แต่ท่านไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเยซูเจ้า  อย่างไรก็ตามพระเยซูเจ้าทรงซื่อสัตย์ต่อบุคคลที่พระองค์ทรงเลือก
เทวดาบอกต่อไปว่า พระองค์เสด็จล่วงหน้าท่านทั้งหลายไปในแคว้นกาลิลีแล้ว (มก 16:7)  ตลอดพระวรสารโดยนักบุญมาระโก  พระเยซูเจ้าทรงพระดำเนินไปข้างหน้าเราเพื่อแสดงถึง ตามเรามาเถิด และเป็นที่กาลิลี เพราะเป็นสถานที่แรกที่พระองค์ทรงสัญญาว่าจะให้ผู้รับเลือกเป็นชาวประมงจับมนุษย์
กาลิลีสำหรับเราคือสถานที่ที่มีคนทั้งชายและหญิงที่เราจะรัก  ช่วยเหลือ  นำความสว่างไปให้  กาลิลีคือที่ที่ผู้คนต้องการพระเยซูเจ้า  กาลิลีหมายถึงงานแพร่ธรรมประจำวันของพระเยซูเจ้า  มีการภาวนาบนภูเขา  การทวีขนมปังและฝูงชนที่อดอยาก  ทุกๆ วัน เราไปกับพระเยซูเจ้า ท่านจะพบพระองค์ที่กาลิลี  ในตอนเริ่มต้นพระวรสาร  พระองค์ทรงสัญญาที่กาลิลีจะทำให้เราเป็นชาวประมงจับมนุษย์  ในตอนจบเราพบว่า เรากำลังจับปลากับพระองค์ที่กาลิลี 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น